รอยแผลเป็นไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็มักจะเป็นปัญหาที่กวนใจ กวนสายตาอยู่เสมอ เวลาที่มองไปบนผิวแล้ว เห็นถึงสีผิวที่ไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอ โดยเฉพาะรอยแผลเป็นที่มีขนาดใหญ่ หรือรอยแผลเป็นบริเวณที่มองเห็นได้ชัดอย่างใบหน้า ก็ยิ่งทำให้เสียความมั่นใจเข้าไปใหญ่ ซึ่งวิธีการรักษาก็สามารถทำได้หลายวิธี แต่หากเป็นแผลเป็นทั่วไป ส่วนใหญ่ก็จะนิยมใช้วิธีรักษาด้วยการทายาลดรอยแผลเป็น และยี่ห้อที่คนไทยคุ้นเคยกันดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ฮีรูดอยด์ เรียกว่าได้ยินชื่อกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ เลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นหลายคนก็อาจจะยังไม่ทราบวิธีการใช้ที่ถูกต้องว่าควรใช้กับแผลชนิดไหน ต้องทาตอนไหน และผลลัพธ์ที่ได้ จะช่วยลดรอยแผลเป็นได้จริงไหม เอาเป็นว่าวันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจทั้งหมดให้กระจ่างกัน
ใช้ ฮีรูดอยด์ อย่างไรให้ถูกต้องและได้ผลดีที่สุด
- เลือกสีให้ถูก
Hirudoid มีส่วนผสมหลักคือ MPS หรือตัวยามิวโคโพลีแซคคาไรด์ โพลีซัลเฟต (Mucopolysaccharide Polysulfate) ที่มีคุณสมบัติดังนี้
- ช่วยลดการอักเสบ และลดการดูดซึมของน้ำเหลือง จึงช่วยลดการบวมได้
- เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ต้านการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดเส้นเล็ก
- บรรเทาอาการปวด ฟกช้ำ ห้อเลือด เส้นเลือดขอด ลดการอักเสบของหลอดเลือดดำใต้ผิวหนัง และการคั่งของเลือด
- กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้แผลเป็นที่แข็งนุ่มลง สีค่อย ๆ จาง ผิวที่ตึงก็มีความยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย
- บรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนของผิวที่ไม้แดด
แต่เวลาเดินเข้าไปร้านขายยา จะสังเกตได้ว่าบนชั้นวางจะมี ฮีรูดอยด์ อยู่ 2 สี คือสีน้ำเงินอมม่วง กับสีแดง ซึ่งทั้ง 2 สีมีความแตกต่างกัน ดังนี้
- Hirudoid Cream หลอดสีแดง มี MPS 0.3% เหมาะสำหรับแผลเป็นทั่วไป แผลใหม่ แผลที่เพิ่งตกสะเก็ด และแผลที่ไม่หนาหรือไม่นูนมาก
- Hirudoid Forte Cream หลอดสีน้ำเงินอมม่วง มี MPS 0.445% เหมาะสำหรับแผลเก่า แผลเป็นนูน หนา แผลเป็นคีลอยด์ หรือใช้ทาบริเวณผิวหนังที่มีความหนา
- ทาตอนแผลปิด
สำหรับแผลใหม่ ควรทาหลังจากที่แผลปิดสนิทดีแล้วทันที จะช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็น และทำให้รอยแผลเป็นหายเร็วขึ้น หากทาตอนที่แผลยังเปิดอยู่ จะทำให้แผลอักเสบและหายช้ากว่าเดิม อีกทั้งยังจะทำให้รอยแผลเป็นมีสีเข้มขึ้นด้วย ส่วนแผลเป็นที่มีอยู่แล้วหรือแผลเก่า ก็สามารถใช้ได้เลย ยิ่งทาเร็วเท่าไหร่ โอกาสที่รอยแผลเป็นจะจางลงเร็วก็มีมากขึ้นเท่านั้น
- ทาวันละ 1-3 ครั้ง
ส่วนวิธีการทานั้นก็ง่ายมาก แค่บีบครีมฮีรูดอยด์ออกมาในปริมาณที่พอเหมาะ ทาลงไปบริเวณที่เป็นแผลเป็นวันละ 1-3 ครั้ง และนวดเบา ๆ จนตัวยาซึมเข้าสู่ผิวหนัง ไม่จำเป็นต้องพอกให้หนา ถ้าอยากให้หายเร็ว ทาบาง ๆ แต่ทาให้บ่อยขึ้นจะดีกว่า
- ข้อควรระวังในการใช้ยา
- Hirudoid เป็นยาสำหรับใช้ภายนอกเท่านั้น ห้ามรับประทานเด็ดขาด
- ควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้ แม้จะไม่มีผลข้างเคียง แต่บางคนอาจมีอาการแพ้หรือระคายเคืองได้
- ห้ามทา ในบริเวณที่มีความบอบบาง เช่น ใกล้ดวงตา ทวารหนัก หรืออวัยวะเพศ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว สตรีมีครรภ์ หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
- ไม่ควรใช้ ฮีรูดอยด์ กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี และเก็บให้พ้นจากเด็กและสัตว์เลี้ยง
- เก็บยาในอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน ไม่จำเป็นต้องนำไปแช่ตู้เย็น เพราะอาจทำให้ส่วนผสมของยาบางตัวเสื่อมประสิทธิภาพลงได้
- ไม่ควรใช้ยาหลังหมดอายุ เนื่องจากประสิทธิภาพของตัวยาจะลดลงและแม้ใช้ต่อเนื่องก็ไม่อาจเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้
ฮีรูดอยด์ ช่วยลดรอยแผลเป็นได้จริงไหม ?
ถ้าตอบกว้าง ๆ เลยก็ต้องบอกว่า ฮีรูดอยด์ สามารถลดเลือนรอยแผลเป็นได้จริง แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ชนิดของแผลเป็น ขนาดของแผลเป็น และความรุนแรงของแผลเป็น รวมถึงความสม่ำเสมอในการทายาด้วย เพราะฉะนั้นผลลัพธ์ที่ได้ หรือระยะเวลาที่ใช้ของแต่ละคนจึงอาจจะไม่เท่ากัน หากเป็นรอยแผลเป็นทั่วไป เช่น รอยสิว รอยยุงกัด รอยข่วน รอยถลอก รอยช้ำ จะหายเร็วกว่า ใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นผลว่ารอยแผลเป็นดูจางลง ส่วนรอยแผลเป็นนูน และรอยแผลเป็นคีลอยด์ อาจจะไม่สามารถทำให้รอยแผลหายไปได้เลย 100% แต่ขนาดและความนูนและความแข็งของรอยแผลจะลดลง ซึ่งสามารถทาร่วมกับการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ ได้ เช่น การฉีดยา เลเซอร์ หรือผ่าตัดลบรอยแผลเป็น
รอยแผลเป็นไม่ว่าจะเป็นรอยสิว รอยยุงกัด รอยผ่าตัด รอยแผลใหม่ หรือรอยแผลเก่า ก็สามารถรักษาได้ด้วยการทาฮีรูดอยด์โดยจะต้องทาหลังจากแผลปิดสนิทแล้วเท่านั้น ผลลัพธ์อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วฉับไว เพราะต้องอาศัยเวลาให้ผิวได้ฟื้นฟู จึงต้องคอยทาเป็นประจำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยก็วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น รอยแผลเป็นจะค่อย ๆ จางลง หากเป็นแผลเก่าก็อาจจะต้องใช้เวลานานกว่า ส่วนรอยแผลเป็นที่นูนมาก หรือแผลเป็นคีลอยด์ ก็จะมีขนาดที่เล็กและดูนูนน้อยลงได้ด้วยเช่นกัน ใครที่กำลังมีปัญหาเรื่องรอยแผลเป็นกวนใจอยู่ละก็อย่ามัวรอช้า รีบซื้อไปลองใช้กันได้เลย
